1.บรูไนดารุสซาลาม(Brunei Darussalam)
ดอกซิมปอร์(Simpor)หรือที่รู้จักกันในชื่อดอกส้านชวา (Dillenia)ดอกไม่ประจำท้องถิ่นบรูไนที่มีกลีบขนาดใหญ่สีเหลืองหากบานเต็มที่แล้วกลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่มพบเห็นได้ตามแม่น้ำทั่วไปของบรูไน โดยเฉพาะแม่น้ำ Tem-burong และยังพบตามบึงหรือบริเวณที่มีทรายสีขาวมีสรรพคุณรักษาบาดแผล หากใครแวะไปเยือนบรูไนจะพบเห็นได้จากธนบัตรใบละ 1ดอลลาร์ของประเทศบรูไน และในงานศิลปะพื้นเมือง
ชื่อสามัญ Shrubby Dillenia
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dillenia suffruticosa(Griff) Martelli
ชื่อวงศ์ Dilleniaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ดอกซิมปอร์ เป็นไม้ต้นสูงได้ถึง 10 เมตร เปลือกสีม่วงดำ ใบเดี่ยวสลับรูปจนถึงรูปไข่กว้าง 8-15 เซนติเมตร ยาว 15-30 เซนติเมตร ปลายกลมหรือมนโคนมน มีครีบและยกตั้งดอกสีเหลืองออกเป็นช่อที่ยอด 4-5 ดอก บางครั้งมีถึง 18 ดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปช้อนเมื่อบกลางประมาณ 8 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้จำนวนมากมีผลเป็นรูปกลมแป้นกว้าง 1-1.4 เซตติเมตร ยาว 2-2.5 เซนติเมตร เมื่อสุกสีส้มหรือแดงแตกเป็น 6 แฉก

2.ราชอาณาจักรกัมพูชา(Cambodia)
ดอกลำดวน (Rumdul )หรือดอกหอมนวล ดอกไม้สีขาวปนเหลืองนวล กลีบดอกหนาทึบและแข็งเล็กน้อยมีกลิ่นหอมเย็น จัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งเพราะมีความหมายถึงความสดชื่นหอมกรุ่ม และเป็นดอกไม้สำหรับสุภาพสตรี ในอดีตมักเปรียบดอกลำดวนกับผู้หญิงเขมร ต้นลำดวนมีความสูง1-12 เมตร พบได้ทั่วไปในประเทศกัมพูชา และนิยมปลูกในสวนสาธารณะ คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นหอมนวลไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความคิดถึง ความสดชื่น นอกจากนี้ดอกหอมนวล ยังมีลักษณะสีนวลสว่างกลิ่นหอมเย็น กระจายไปไกลมิรู้คลายและยังเชื่ออีกว่าเกสรของหอมนวลเป็นยาวิเศษอย่างหนึ่ง สำหรับบำรุงสุขภาพจิตที่ดีอักด้วยเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นหอมนวลไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ ถ้าจะให้มงคลแก่ตัวเองผู้ปลูกควรเป็นสุภาพสตรี เพราะชื่อลำดวนเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับสุภาพสตรี
ชื่อสามัญ Lamdman ,Devil Tree,Wite Cheesewood
ชื่อวิทยาศาสตร์ Melodorum fruticosum Lour.
ชื่อวงศ์ Annonaceae
สรรพคุณยา หอมนวลจัดอยู่ในพิกัดเกสรทั้งเก้า เป็นยาบำรุงกำลัง ดอกแก้ไข้ แก้ลมวิงเวียนบำรุงหัวใจ บำรุงโลหิต
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำดวนเป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง5-20เมตร ไม้ผลัดใบ เรือนยอดรูปกรวย หนาทึบลำต้นเปลาตรง มีเปลือยสีน้ำตาล แตกขรุขระเป็นสะเก็ด ใบเดี่ยว เรียงสลับแผ่นใบรูปขอบขนาดหรือรูปใบหอก กว้าง 2.5.4 เซนติเมตรยาว5.11.5เซนติเมตร ปลายใบแหลมโคมใบสอบหรือมน ดอกมีสีนวลกลิ่นหอม ออกเดี่ยวตามซอกใบที่ปลายกิ่ง กลีบดอกหนาและแข็ง กลีบดอก ชั้นนอก3กลีบ หุบเข้าหากันเมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2เซตติเมตร ลักษณะผลเป็นผลกลมทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.6 เซนติเมตร สีเขียวเมื่อสุกสีดำ รสหวานอมเปรี้ยว
3.อินโดนีเซีย (Indonesia)
ดอกกล้วยไม้ราตรี (Moon orchid) เป็นหนึ่งในสามของดอกกล้วยไม้ประจำชาติของอินโดนีเซีย ได้แก่ดอก Jasmi-num sambac ดอก Rafflesia arnolldi และ ดอก Moon orchid ช่อดอกของกล้วยไม้ราตรีสามารถแตกกิ่งและอยู่ได้นาน 2-6 เดือน ดอกจะบานเพียงปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศชื้น พบเห็นได้ง่ายในพื้นที่ราบต่ำของประเทศอินโดนีเซีย กล้วยไม้ราตรีสามารถพบได้ทั่วไปในพม่า ไทย ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และหมู่เกาะใกล้เคียงในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งตอนเหนือของทวีป ออสเตเลีย จึงกล่าวได้ว่ามีการกระจายพันธุ์อยู่ในทวีปเอเชีย
ชื่อสามัญ : Moon Orchid หรือ Moth Orchid
ชื่อวิทยาศาสตร์ : phalanopsis amabilis
ชื่อวงศ์ : Orchidaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ฟาแลนนอปชิสเป็นกล้วยไม้ที่เจริญเติบโตทางยอด (Monopodial) ต้นสั้นใบกว้างค่อนข้างรี หนา และอวบน้ำค่อนข้างใหญ่ ช่อดอกยาว ปกติจะมีใบติดอยู่กับลำต้น 5-6 ใบ ยิ่งถ้าต้นสมบูรณ์ก็สามารถมีใบมากกว่านี้ ดอกบานทนนาน 2-3 สัปดาห์ หรืออาจเป็นเดือน ในประเทศไทยพบฟาแลนนอปซิสในธรรมชาติได้แก้ เขากวางอ่อน (Phalaenopsis comucevi) ผีเสื้อชมพู (Phalaenopsis lowii) ผีเสื้อน้อย(Phalaenopsis parishii)และตากาฉ่อ Phalaenopsis deliciosa หรือ (Phalaenopsis decumbens)

4.สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(Laos PDR)
ดอกไม้ประจำชาติประเทศไทยเพื่อนบ้านของไทยอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ ดอกจำปาลาว (Champa) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดอกลีลาวดี หรือ ดอกลั่นทม โดยดอกจำปาลาวมักมีสีสันหลากหลายไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเพียงสีขาวเท่านั้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีแดง หรือสีโทนอ่อนต่างๆดอกจำปาลาวนั้นเป็นตัวแทนของความสุขและความจริงใจ จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อประดับประดาในงานพิธีต่างๆรวมทั้งใช้เป็นพวงมาลัยเพื่อรับแขกอีกด้วย ดอก Champa บานทุกวัน และอยู่ได้นาน จึงมักปลูกอย่างแพร่หลายและเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะในบริเวณวัด
ชื่อสามัญ Frangipani,Pagoda,Temple
ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumeria spp
ชื่อวงศ์ Apocynaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลีลาวดีเป็นไม้ยืนต้น มีขนาดตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ0.9-1.2 เมตร จนถึงต้นที่สูงมาก อาจสูงถึง 12 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสขาและพุ่มใบสวยงามมีน้ำยางสีขาวข้น เป็นไม้ผลัดที่สลัดใบในฤดูแล้งก่อนที่จะผลิตดอกและผลิใบรุ่นใหม่กิ่งที่ยังไม่แก่มีสีเขียว อ่อนนุ่ม ดูเกือบจะอาบน้ำ กิ่งแก่มีสีเท่ามีรอยตะปุ่มตะป่ำกิ่งไม่สามารถทานน้ำหนักได้ กิ่งเปราะ เปลือกลำต้นหนา ต้นที่โตเต็มที่แล้วจะพัฒนาจนกระทั่งมีความแข็งแรงมากขึ้นใบ เป็นใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและหนาแน่นใกล้ปลายกิ่ง มีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งรูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่นโดยทั่วไป ใบจะหนา เหนียวแข็ง และมีสีตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตกต่างกันช่อดอก ดอกจะผลิตออกมาจากปลายยอดเหนือใบ เห็นช่อดอกใหญ่สวยงามแต่ก็มีบางชนิดที่ออกช่อดอกระหว่างใบ หรือใต้ใบ บางชนิดห้อยลงบางชนิดตั้งขึ้นในหนึ่งช่อจะมีดอกบานพร้อมกัน 11-30 ดอก บางตัวที่มีความสมบูรณ์เต็มที่อาจมีดอกมากกว่า100ดอก ต่อ1 ช่อ ออกดอกประมาณเดือนกุม๓พันธ์ถึงเดือนเมษายน บางพันธุ์สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี ลักษณะของดอกโดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ถึงกลาง ยกเว้นบางพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก กลีบดอกมี5กลีบ เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย อยู่ลึกเข้าไปข้างใน ดอกมีลักษณะคล้ายท่อ ทำให้มองไม่เห็นเกสรตัวเมียอยู่ลึกลงไปในก้านดอก เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียบานไม่พร้อมกันยากต่อการผสมตัวเอง ฝัก มีลักษณะคล้ายกับฝักต้นชวนชม ฝักอ่อนสีจะมีสีเขียวเมื่แก่ฝักจะมีสีแดงถึงดำ

5.มาเลเซีย(Malaysia)
ดอกไม้ประจำชาติซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย คือ ดอกพู่ระหง ( Bunga Raya) ในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า บุหงารายอ หรือที่รี้จักกันทั่วไปในชื่อ ดอกชบาสีแดง ลักษณะกลับดอกเป็นสีแดง มีเกสรยื่นยาวออกมาเหนือดอก ดอกชบามี5กลีบ เป็นตัวแทน 5หลักการแห่งความเป็นชาติของประเทศมาเลเซีย เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความอดทนในชาติ โดยเชื่อว่าจะช่วยให้สูงส่งและสง่างาม รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์และความงามได้อีกด้วย ต้นใช้ทำรั้ว ดอกสดสามารถใช้ขัดมันรองเท้าได้
ชื่อสามัญ Chinese Rose, Shoe Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus rosa-sinensis Linn.
ชื่อวงศ์ : Malvaceae
สรรพคุณยา : ใบ,ดอก,ราก พันธ์แท้ รากสด ใช้ตำพอกฝีรับประทานช่วยขับน้ำย่อย ช่วยทำให้เจริญอาหาร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้พุ่มขนาด 1-3 เมตร อาจสูง ได้ถึง 7-10 เมตร เป็นรุปไข่กว้าง ปลายแหลมเรียว ขอบใบจักหรือของใบเรียบดอกออกตามซอกใบใกล้ปลายยอดก้านดอกยาวกลีบรองดอกมีสองชั้น สีเขียวดอกมีทั้งดอกลาและดอกซ้อนมีหลายสีมีทั้งดอกใหญ่และดอกเล็กถ้าดอกลาจะมี 5 กลีบ ชบาเป็นดอกทั่วสมบูรณ์เพศมีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวผู้เป็นดอกยาวยื่นขึ้นมากลางดอกปลายสูดเป็นยอดเกสรตัวเมีย แยกเป็น 5 แฉกสีแดง เกสรตัวผู้ตัวรอบๆๆดอกเป็นสีเหลืองออกดอกตลอดปี
ไม้สกุลชบา เป็นสกุลของพืชมีดอกในวงศ์ Malvaceae เป็นสกุลขนาดใหญ่มีด้วยกันราว 200-230 ชนิด พบในเขตอากาศอุ่น ในกึ่งเขตร้อน ทั่วโลก ไม้สกุลนี้มีทั้งพืชปีเดียวและพืชหลายฤดูมีทั้งไม้ล้มลุกและพืชที่มีเนื้อไม้ชื่อสกุลนี้มาจากภาษา hibiskos ซึ่งเป็นชื่อที่นักปรัชญาและนักพฤกษศาสตร์ชาวกรีก เพตานีอุส ไดโอคอริเดส ตั้งให้ Althaea officinalis

6.สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมาร์ (Myanmar)
ดอกไม้ประจำชาติของสหภาพเมียนมาร์หรือพม่า คือ ดอกประดู่ (paduak) เป็นดอกไม้ที่พบมาในประเทศพม่ามีสีเหลืองทอง ผลิดอกและส่งกลิ่นหอมในฝนแรก ช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกีบที่ประเทศพม่ามีการเฉลิมฉลองปีใหม่ขึ้น ชาวพม่าชื่อว่าดอกประดู่ สัญลักษณ์ของความแข็งแรกความคงทน หมายถึง วัยหนุ่มสาวและความรัก เป็นดอกไม้ที่ใช้ในงานประเพณีและพิธีทางศาสนาของพม่า ลำต้นสามารถนำไปใช้ทำเครื่องเลือนได้
ชื่อสามัญ : Padauk
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Plerocarpus lndicus Wild
ชื่อวงศ์ : Leguminosae-Paplionoideae
ลักษณ์ทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นผลัดใบสูง 15-30 เมตร เรือนยอดรูปกลมเป็นรูปร่มทึบ ปลายกิ่งจะห้อยย้อยลงเปลือกสีน้ำตาลคล้ำแตกเป็นเสด็จทั่วไปเปลือกในมีน้ำเลี้ยงสีแดง ใบประกอบขนนกเป็นช่อเรียงสลับช่อยาว 12-20 เซนติเมตร ช่อหนึ่งๆ มีใบย่อยที่ติดเยื้องกัน 4-10 ใบ ปลายสุดของช่อจะเป็นใบเดี่ยวๆ รูปทรงรี รูปไข่หรือรูปแก้มรูปหอกกว้าง 2.5-4 เซนติเมตร ยาว 4-15 เซนติเมตร โคนใบผายกว้างแล้วค่อยๆ สลับไปทางปลายใบ เนื้อใบหนาเลี้ยงที่สองด้านเส้นแขนงใบถี่โค้งไปตามรูปใบเป็นระเบียบ ขอบในเรียบ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ รูปดอกถั่วสีเหลือง กลิ่นหอมอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบหรือปลายกิ่ง ช่อยาวยืด 20-30 เซนติเมตร ผลรูปโล่มีครีบเป็นแผ่นกลม ตรงกลางนูน 3-4 เซนติเมตร

7.สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Philippine)
ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือดอกพุทธแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาว กลีบดอกเป็นรูปดาวมีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืนถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธ์ รียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งเคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลอง ในตำนานเรื่องเล่า รวทั้งบทเพลง ของฟิลิปปินส์ด้วย โดยมีความเชื่อว่า ดอกไม้ชนิดนี้ มีที่มาจาก Himalaya ในศตวรรษที่ 17 ชาวฟิลิปปินส์ ใช้ร้อยเป็นมงกุฎสำหรับต้อนรับแขก ทำมาลัยในพิธีทางศาสนา
ชื่อสามัญ : Sampaguita Jasmine, Arabian Jasmine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Jasminum sam bac (L) Aiton. Tabernaemontana diaracate
ชื่อวงศ์ : Oleaceae
สรรพคุณ : ราก บำรุงร่างกาย ระงับอาการปวด แก้ปวดฟัน ขับพยาธิ ลำต้น คั้นเอาน้ำดื่ม ใช้ขับพยาธิ เนื้อไม้เป็นใบโชลกแล้วคั้นเอสแต่น้ำแก้โรคผิวหนัง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ใบรูปไข่หรือกลมสีเขียวเป็นมัน ออกดอกเดี่ยวและเป็นช่อ บานตลอดทั้งปีดอกสีขาวลักษณะเป็นแฉกคล้ายดาว มักบานในเวลากลางคืนและบานได้เพียงชั่วครู่ ในตอนกลางวัน มีกลิ่นหอมแรงคล้ายดอกมะลิ

8ราชอาณาจักรไทย (Thailand)
ดอกราชพฤกษ์ (Ratchaphruek) ไม้ประจำชาติของไทยมีสีเหลืองสวยสง่างาม เมื่อดอกบาน จะให้ความรู้สึกอบอุ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ซึ่งคนไทยรู้จักกันดีในชื่อของดอกคูณโดยมีความเชื่อว่าสีเหลืองอาร่ามของดอกราชพฤกษ์คือ สีแห่งพระพุทธศาสนา และความรุ่งโรจน์ รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีปองดอกของคนในชาติอีกด้วย ดอกราชพฤกษ์จะเบ่งบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม มีจุดเด่นเวลาเบ่งบานคือ การผลัดใบออกจนหมดต้นเหลือไว้เพียงแค่สีเหลืองอาร่ามของดอกราชพฤกษ์เท่านั้น ต้นราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพิธีสำคัญ เช่น พิธีเสาไม้หลักเมือง เป็นส่วนประกอบในการทำ คทา จอมพลเป็นยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ฯลฯ คนไทยในสมัยโบราณยังมีความเชื่อว่า บ้านใดปลุกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี นอกจากนี้มีความเชื่อว่า ใบของต้นราชพฤกษ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพราะในพิธีทาง ไสยศาสตร์ให้ใบทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะ ได้ผลดีดังนั้น จึงถือว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนาม
ชื่อสามัญ : Goldan Shower,Indian,Labunum,Pudding-pine Tree, Purging Cassia
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia fistula Linn.
ชื่อวงศ์ : Leguminosae-Caesalpinioideae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ราชพฤกษ์เป็นไม้ต้น สูง 10-15เมตร เรือนยอดรูปไข่หรือรูปร่ม เป็นไม้ผลัดใบเปลือกสีน้ำตาล ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย้อย เรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบย่อยรูปไข่ขอบใบเรียบ ดอกสีเหลืองสด ออกเป็นช่อคล้ายหางกระรอก ขนเป็นฝักรูปทรงกระบอก ฝักแก่สีน้ำตาลเข้ม ภายในมีเยื่อบางๆ กั้นเป็นช่อตามขวาง มีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดเป็นรูปรีสีน้ำตาล ขึ้นได้ที่ทั่วไปฝักแก่ ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ขยายพันธ์ด้วยเมล็ด ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม
สรรพคุณยา : ฝักแก่และเนื้อใช้เป็นยาระบาย กำจัดแมลง ทำหัวเชื้อจุลินทรี ฝักอ่อน ใช้ขับเสมหะ ใบสดตำละเอียด นำมาใช้ฆ่าเชื้อโรค ดอกแก้แผลเรื้อรัง
.

9.สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Singapore)
ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim) เป็นดอกไม้ประจำชาติของสาธารณสิงคโปร์ กล้วยไม้แวนด้าตั้งชื่อตามผู้ผสมพันธุ์คือ Miss Agnes Joaquim จักเป็นกล้วยไม้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์มีสีม่วงสดสวยงามและเบ่งบานตลอดทั้งปี นิยมใช้จัดแจกันหรือจัดกระเช้า โดยถูกจำให้เป็ดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ.252)
ชื่อสมัญ : Vanda Miss Joaquim, Miss Joaquim Orchid
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vamda X “Miss Joaquim”
ชื่อวงศ์ : Orchiaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : พืชใบเลี้ยงเดี่ยว ประเภทโมโนโพเดี้ยล ไม่แตกกอเจริญเติบโตไปทางยอดรากเป็นรากอากาศ ใบมีลักษณะกลมแบนหรือร่อง ใบซ้อนสลับกัน ช่อดอกจะออกด้านข้างของต้นสลับกับใบ ช่อดอกยาวแลพแข็ง กลีบนอกและกลีบในมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน โคนกลีบแคบและไปรวมกันที่โคนเสาเกสร กลีบดอกในราก ด้านใต้มีเดือยแหลกยื่นออกมาเป็นส่งทางของปากกระเป๋าของแวนด้าเป็นแบบธรรมดาแบบเป็นแผ่นหนาแข็งและพุ่งออกด้านหน้า รูปลักษณะคล้ายช้อนหูกระเป๋าทั้งสองข้างแข็งและตั้งขึ้น สีดอกมีมากมาย แตกต่างกันตามแต่ละชนิด

10.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม(Vietnam)
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีดอกไม้เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี คือ ดอกบัว (Lotus)เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกบัวเป็นที่รู้จักกันในนาม “ดอกไม้แห่งรุ่งอรุณ”เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ความผูกพัน และการมองโลกในแง่ดี ดอกบัวจึงมักถูกกล่าวในบทกลอนและเพลงพื้นเมืองของชาวเวียดนามอยู่บ่อยครั้ง
ชื่อสามัญ : Water lily
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nymphaea lotus linn.
ชื่อวงศ์ : Nymphaeaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชน้ำล้มลุกลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้า ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจากลำต้นโดยมีก้านใบส่งขึ้นมา เจริญที่ใต้น้ำ ผิวน้ำหรือเหนือน้ำรูปร่างของใบส่วนใหญ่กลมมีหลายแบบ บางชนิดมีก้านใบบัวและผิวบัวยังมีลักษณะเป็นมันวาวอีกด้วยก้านดอกยาวมีหนามเหมือนก้านใบชูดอกเหนือน้ำและชูสูงกว่าใบเล็กน้อยกลีบเลี้ยง4-5 กลีบ สีขาวอมเขียวหรือสีเทาชมพูร่วงง่าย กลีบดอกจำนวนมาก เรียงซ้อนหลายชั้นเกสรตัวผู้มีจำนวนหลายสี

ขอขอบคุณ
ที่มา
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตกแต่งสวยงาม. เนื้อหาน่าสนใจดี
ตอบลบน่าสนใจมากค่ะ
ตอบลบได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเรยค่ะ
ตอบลบสวยงามเด้
ตอบลบสวยงามมากกะเทยไทย (บล็อกน่ะ)...
ตอบลบสวยมากอะ ความรุ้ก็เยอะ
ตอบลบได้ความรุ้มากค้ะ
ตอบลบความสวยงามของดอกไม้ ทั้ง 10 ประเทศ
ตอบลบดีมากเลยค่ะ
ตอบลบน่าสนใจจัง AEC
ตอบลบสวยมากอ่ะ
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจดี
ตอบลบ